|
|
The ever-so-popular facial profile among Asian's girls |
|
|
|
หน้าเรียวรูปไข่ (Oval / Slim face) ถือเป็นความฝันของวัยรุ่นและสาวๆในปัจจุบันเป็นอย่างมาก การรักษาหรือปรับรูปหน้าให้ดูเรียวมีมากมายหลายวิธีทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด แต่สิ่งสำคัญต่อผลสัมฤทธิ์ในการปรับใบหน้าให้ดูเรียวกลับไม่ใช่ วิธีการที่มีอยู่อย่างมากมายในขณะนี้ กลับเป็น การวิเคราะห์ใบหน้า (Facial Assessment) ที่ถูกต้องต่างหาก |
|
|
อะไรคือปัจจัยที่มีผลต่อใบหน้าเรียว |
|
ทุกส่วนของใบหน้านับตั้งแต่ ขมับ โหนกแก้ม กระดูกกราม กล้ามเนื้อกราม กระดูกและกล้ามเนื้อคาง ไขมันแก้ม ไขมันมุมปาก รวมถึงไขมันใต้คาง ล้วนมีผลทั้งสิ้นต่อการเรียวหรือไม่เรียวของใบหน้า ดังนั้นการรักษาที่ผิดวิธีนอกจากจะไม่ได้ใบหน้าที่เรียวแล้วอาจทำให้ใบหน้าผิดรูปได้ เช่นการฉีดโบท็อกลดกล้ามเนื้อกราม อาจทำให้หน้าตอบ กระดูกโหนกแก้มดูสูงขึ้นหรือกระดูกมุมกรามโผล่ให้เห็นชัดมากขึ้นได้ เป็นต้น |
|
|
โบท็อกหน้าเรียวได้อย่างไร |
|
โบท็อกเป็นยาชนิดหนึ่งที่จะไปลดขนาดกล้ามเนื้อบริเวณมุมกรามให้เล็กลง เพื่อให้ใบหน้าส่วนล่างดูแคบลง ใบหน้าโดยรวมก็จะดูเรียวขึ้น มีผลการรักษาอยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือนต่อการรักษาหนึ่งครั้ง ไม่ถาวร ผลการรักษาอาจอยู่ได้นานขึ้นถ้ามีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการเคี้ยว การปรับใบหน้าให้เรียวด้วยโบท็อกต้องอาศัยประสบการณ์ของแพทย์เป็นสำคัญ การใช้ยาโบท็อกที่ไม่ถูกต้องนอกจากจะไม่ได้ผลแล้ว ก็จะมีผลเสียตามมาได้ |
|
|
การแก้ไขหน้ากลมให้เรียว |
|
หน้ากลมมักเกิดจากปัญหาไขมันบนใบหน้าเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น ไขมันกระพุ้งแก้ม (Buccal pad fat) หรือ ไขมันที่มุมปาก (Jowl fat) รวมถึงไขมันที่อยู่ใต้ผิวหน้า การรักษาจึงมุ่งเน้นการขจัดไขมันออกให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดนำไขมันกระพุ้งแก้มออก (LipoAs) ,การใช้ยาฉีดบางตัวเพื่อสลายไขมัน (Lipolysis injection) หรือการดูดไขมันใบหน้าออกเพื่อให้ผิวหน้าบางลง การจะเลือกใช้วิธีใดต้องขึ้นกับการวิเคราะห์ปัญหาเป็นสำคัญ |
|
การปรับใบหน้าให้เรียวได้รูปที่สวยงาม โดยมากแล้วมักจะต้องอาศัยหลายวิธีผสมผสานเข้าด้วยกัน มีเพียงบางกรณีเท่านั้นที่สามารถใช้วิธีใดวิธีหนึ่งได้ แต่ละวิธีมีความเหมาะสมกับแต่ละใบหน้าไม่เหมือนกัน ดังนั้นการเลือกวิธีการรักษาชนิดเลียนแบบกันนอกจากจะไม่ได้ผลแล้ว อาจทำให้ปัญหาบานปลายได้ |
|
|