 |
| |
CAL : A combo set of breast and body contouring |
|
|
| |
| การเสริมหน้าอกด้วยถุงนมเทียมหรือถุงซิลิโคน แม้ว่าจะเป็นมาตรฐานของการเพิ่มขนาดหน้าอกโดยทั่วไป แต่ศัลยกรรมวิธีนี้ก็ยังพบปัญหาบ้างพอสมควร ไม่ว่าจะเป็น การคลำได้ขอบของถุงซิลิโคน การที่พังผืดไปรัดถุงนมจนแข็งไม่นุ่มเหมือนหน้าอกตามธรรมชาติ และถุงนมที่ทำด้วซิลิโคนก็มีอายุใช้งานได้ประมาณ 10 ปี ซึ่งอาจต้องผ่าตัดแก้ไขอีกครั้ง เป็นต้น |
| |
|
| การเสริมหน้าอกด้วยเซลไขมันเป็นอย่างไร |
|
| เป็นการย้ายเซลไขมันส่วนเกินที่เราไม่ต้องการเช่น หน้าท้อง ต้นขา สะโพก เป็นต้น มาปลูกถ่ายหรือเติมเต็มและเพิ่มขนาดให้กับทรวงอก โดยไม่ต้องมีแผลผ่าตัดเหมือนการเสริมหน้าอกโดยทั่วไป และไม่ต้องกังวลกับสิ่งแปลกปลอมเช่นถุงซิลิโคนในร่างกาย ถือเป็นการรักษาแบบ 2 in 1 คือสามารถได้ขนาดหน้าอกที่เต็มและรูปร่างที่ดีขึ้นไปพร้อมๆ กัน |
| |
|
| เราสามารถเพิ่มขนาดหน้าอกด้วยไขมันได้ใหญ่แค่ไหน |
|
| แม้ว่าการเติมเต็มด้วยเซลไขมันจะทำได้ดี แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องขนาดที่เพิ่มเช่นกัน เนื่องจากปริมาณเซลไขมันที่สามารถคงอยู่ได้มีปริมาณที่พอเหมาะเท่านั้นในแต่ละครั้ง ไม่สามารถเพิ่มขนาดให้ใหญ่ได้เหมือนกับการเสริมด้วถุงซิลิโคนในครั้งเดียว อย่างไรก็ตามการเติมเต็มด้วยเซลไขมันก็สามารถเพิ่มขนาดได้อีกถ้าต้องการ ด้วยการฉีดเพิ่มในครั้งถัดไป โดยปกติสามารถเพิ่มได้ในระดับ 1 -2 cup size |
| |
|
| ใครที่เหมาะกับวิธีนี้ |
|
| วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่อยากได้ทรวงอกที่ดูเป็นธรรมชาติไม่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย ,ผู้ที่ต้องการเพิ่มขนาดทรวงอกที่ไม่ใหญ่มากนักประมาณ 1-2 cup size, ผู้ที่ต้องการเพิ่มเป็นบางส่วนเช่น เนินทรวงอกที่มักจะพร่องไปหลังการให้นมบุตร หรือแม้แต่เติมเต็มในบางจุดที่ต้องการซึ่งถุงนมไม่สามารถทำได้ นอกจากนี้ยังสามารถนำมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการเสริมด้วยถุงซิลิโคน อาทิเช่น ผิวหน้าอกเป็นคลื่น (Rippling) หรือขอบถุงนมที่คลำได้จากผิวหนังที่บาง เป็นต้น |
| |
|
| ผลของการรักษาจะอยู่ได้นานแค่ไหน |
|
| จริงอยู่แม้ว่าเซลไขมันบางส่วนประมาณ 20-50% อาจสลายตัวไปบ้าง (ขึ้นกับขบวนการในการเก็บและปลูกถ่ายเซลไขมันเป็นสำคัญ) แต่ส่วนที่เหลืออยู่ก็จะคงอยู่ได้ตลอดไปเช่นเดียวกับเซลไขมันส่วนอื่นของร่างกายที่สามารถลดหรือเพิ่มขนาดได้ตามน้ำหนักตัว นอกจากนี้เรายังสามารถเพิ่มขนาดได้ถ้าต้องการ |
| |
|
| ข้อจำกัดในการเสริมหน้าอกด้วยไขมัน |
|
| เนื่องจากจำเป็นต้องใช้ไขมันที่มีอยู่ในร่างกายของเราเอง ดังนั้นคนที่ไม่มีไขมันส่วนเกินจึงไม่สามารถทำวิธีนี้ได้ ,คนที่ต้องการเพิ่มขนาดมากๆ,คนที่มีประวัติมะเร็งเต้านมในครอบครัวอาจมีปัญหาในการวินิฉัยแยกโรค เนื่องจากไขมันบางส่วนอาจรวมตัวเป็นก้อน คล้ายเนื้องอกเต้านม ซึ่งต้องอาศัยแมมโมแกรมในการช่วยวินิจฉัยแยกโรค จากการศึกษายังไม่พบไขมันที่ปลูกถ่ายลงไปสามารถกลายเป็นมะเร็งเต้านมได้ |
| |
|
| ทำไมบางรายไม่ได้ผลจากการเติมเต็มด้วยไขมันเลย |
|
| การเติมเต็มด้วยเซลไขมันไม่ใช่การดูดไขมันออกมาแล้วฉีดเข้าไปเหมือนที่ทำกันทั่วไป จำเป็นต้องอาศัยขั้นตอนที่ละเอียดอ่อนตั้งแต่การเลือกตำแหน่งไขมันที่จะใช้ การใช้เครื่องมือเฉพาะในการดูดซึ่งต้องมีแรงดันที่พอเหมาะเพื่อป้องกันเซลไม่ให้ถูกทำลายเสียก่อน การคัดกรองแยกเซลไขมันที่แข็งแรง และที่สำคัญคือการลำเลียงเซลไขมันสู่เป้าหมายที่ต้องการเป็นชั้นๆด้วยเครื่องมือขนาดเล็กอย่างนุ่มนวล ซึ่งขั้นตอนต่างๆต้องอาศัยประสบการณ์ของแพทย์และทีมงานโดยเฉพาะ ดังนั้นการรักษาที่ไม่ถูกวิธีย่อมทำให้ไขมันสลายตัวไปได้หมดหรือเกือบหมดจนไม่เห็นผล |
| |
|
| การเติมเต็มหน้าอกด้วยสเต็มเซล |
|
| เป็นศัลยกรรมการเติมเต็มหน้าอกด้วยเซลไขมันขั้นสูง เนื่องจากเป็นการสกัดสเต็มเซลจากไขมันที่ดูดออกมา (Adipose derived fat stem cell , ADSc) นำมาผสมผสานกับเซลไขมันที่ถูกคัดกรองแล้ว จากนั้นจึงปลูกถ่ายลงไปยังทรวงอกพร้อมๆกัน สเต็มเซลเหล่านี้จะไปช่วยเพิ่มหลอดเลือดเพื่อให้การอยู่รอดหรือคงอยู่ของเซลไขมันที่ปลูกถ่ายลงไปมีมากขึ้น ส่งผลให้การสลายตัวของไขมันลดลง วิธีนี้จึงสามารถเพิ่มขนาดทรวงอกได้มากกว่าการเติมเต็มไขมันโดยทั่วไป การเติมเต็มด้วยสเต็มเซลไขมันจำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์ของศัลยแพทย์และทีมงาน รวมทั้งเครื่องมือที่ทันสมัยจึงจะสามารถทำได้ |
| |
| |
