 |
| |
Some call "Liquid facelift" procedure. |
|
|
| |
| การใช้สารเติมเต็มหรือฟิลเล่อร์เพื่อความงามนับวันจะมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นการรักษาที่ไม่ได้ยุ่งยากมากนัก ไม่ได้เป็นการผ่าตัด ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น อย่างไรก็ตามสารเติมเต็มเองก็มีความหลากหลายขึ้นอยู่กับสารพื้นฐานที่ใช้ ระยะเวลาที่คงอยู่ของสารนั้นๆรวมถึงความปลอดภัยที่แตกต่างกัน |
| |
|
| สารเติมเต็มมีกี่ประเภท |
|
| สารเติมเต็ม (Dermal filler) เป็นสารที่สกัดมาจากทั้งธรรมชาติและที่สังเคราะห์ขึ้นมาโดยเฉพาะ โดยทั่วไปแบ่งเป็น 3 ประเภทตามระยะเวลาที่สารนั้นจะคงอยู่ ประเภทแรกเป็นแบบชั่วคราว (Tempolary) อยู่ได้ประมาณ 3-12 เดือน เป็นสารที่อยู่ในกลุ่มไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic acid) หรือ HA เป็นหลัก ที่ใช้ในเมืองไทยได้แก่ Juvederm, Restylane เป็นต้น สารชนิดนี้จะค่อยๆสลายตัวไปในเวลาไม่เกินหนึ่งปี ขึ้นกับตำแหน่งที่ใช้รวมถึงการดูแลหลังการรักษา ประเภทที่สองเป็นกลุ่มกึ่งถาวร (Semi-permanent) อยู่ได้ประมาณ 1-5 ปี ในกลุ่มนี้จะเป็นสารผสมระหว่างตัวนำสารและตัวสารเอง เช่น Radiesse, Sculptra เป็นต้น ประเภทที่สามเป็นกลุ่มถาวร (Permanent) เป็นสารที่สังเคราะห์ขึ้นและไม่สามารถสลายตัวได้ เช่น Aetefill, Bioplastique, Liquid Silicone, Hydrogel เป็นต้น |
| |
|
| ควรเลือกใช้ตัวไหนดี |
|
| การเลือกสารเติมเต็มต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก เนื่องจากการที่สารนั้นๆคงอยู่ในร่างกายได้นาน ย่อมหมายถึงโอกาสที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนในระยะยาวด้วยเช่นกัน ดังนั้นถ้าเลือกใช้สารชนิดกึ่งถาวรหรือถาวรก็ต้องพร้อมที่จะรับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต |
| |
|
| ตำแหน่งที่ใช้สารเติมเต็ม |
|
| ส่วนใหญ่มักใช้กับส่วนต่างๆของใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ร่องใต้ตา ริ้วรอยต่างๆ ขมับหรือใบหน้าตอบ รวมถึงการเสริมแต่งเช่น เสริมจมูก เสริมคางหรือเสริมหน้าผาก เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการใช้สารเติมเต็มในการยกกระชับหน้าได้บ้าง ใช้เพิ่มความอิ่มให้กับผิวหลังมือที่เหี่ยวย่น เป็นต้น การใช้สารเติมเต็มในปริมาณมากๆเช่น เสริมหน้าอก เสริมสะโพก ยังไม่ค่อยได้รับความนิยม เนื่องจากสารเติมเต็มที่ปลอดภัยในปริมาณมากๆจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากและไม่คุ้มค่า เนื่องจากผลของการรักษาจะอยู่ไม่นาน ไม่นับรวมสารเติมเต็มที่ใช้ผิดประเภทเหมือนที่เป็นข่าว ในกรณีที่ต้องการใช้ปริมาณมากๆ การเติมเต็มด้วยเซลไขมันจะปลอดภัยกว่า |
| |
|
| ปัญหาที่พบบ่อย |
|
| ปัญหาจากการใช้สารเติมเต็มเกิดจากสองส่วนด้วยกัน คือตัวสารเองและตัวคนฉีด สำหรับตัวสารเองนั้นสามารถพิจารณาได้ตั้งแต่ก่อนการใช้ว่าจะเกิดปัญหาอย่าไงไรได้บ้าง เช่นสารในกลุ่ม HA มักเกิดปัญหาน้อยเนื่องจากสามารถสลายตัวได้ง่าย อีกทั้งยังสามารถฉีดสลายได้ถ้าเกิดปัญหา สารในกลุ่มกึ่งถาวรและถาวรมักจะเกิดปัญหาได้ง่ายกว่า เนื่องจากตัวสารเองอาจเคลื่อนมาที่ผิวๆทำให้มองเห็นเป็นก้อนหรือคลำได้ ซึ่งการแก้ไขจะทำได้ยากหรือไม่ได้เลย แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น (ทั้งที่เป็นและไม่เป็นข่าว) มักเกิดจากตัวคนฉีดเป็นหลัก ซึ่งในปัจจุบันคนที่ใช้ส่วนหนึ่งไม่ใช่แพทย์หรือเป็นแพทย์ที่ขาดความชำนาญ ปัญหาที่เกิดขึ้นมีตั้งแต่ ไม่ได้ผล เป็นก้อนๆ เป็นถุงบวมน้ำใต้ตา จมูกอักเสบ จมูกโต เนื้อตาย จนถึงขั้นตาบอดหรือเสียชีวิตเหมือนพริตตี้ที่เป็นข่าว ดังนั้นการเลือกแพทย์ที่มีความชำนาญจริงๆ จึงมีสำคัญอย่างมาก |
| |
|
| สารเติมเต็มราคาถูก |
|
| ยังมีสารเติมเต็มอีกหลายชนิดที่หาซื้อได้ในตลาดมืด หรือนำเข้ามากันเอง บางชนิดใช้ในอุตสาหกรรมแต่ห้ามใช้ในคน ราคาถูก และไม่ผ่านการรับรองจากอย. การเลือกใช้สารที่มีความปลอดภัยจึงเป็นหน้าที่ของผู้บริโภคเป็นหลัก เพราะสารเติมเต็มที่มีความปลอดภัยสูงย่อมมีราคาสูงเช่นกัน |
| |
|
| ข้อคิดก่อนใช้สารเติมเต็ม |
|
| ร่างกายและชีวิตของเรามีค่ามากกว่าสารเติมเต็มราคาถูกๆ หรือให้ใครก็ได้ทำการรักษา โชคดีอาจไม่เกิดปัญหา แต่ถ้าโชคร้ายซึ่งมักจะเกิดขึ้นบ่อยกว่าก็อาจเสียโฉมหรือเสียชีวิตได้ การใช้สารเติมเต็มแม้ว่าจะทำได้ง่าย ไม่ใช่ศัลยกรรม แต่ถ้าเกิดปัญหาแล้วศัลยกรรมบางครั้งก็ช่วยแก้ไขให้ไม่ได้ หรือถ้าทำได้ก็ต้องมีค่ารักษาที่สูงมากๆ ที่สำคัญคนที่ฉีดมักไม่รู้วิธีแก้ไขหรือไม่สามารถแก้ไขได้ เป็นส่วนใหญ่ |
| |
| |
